KCG ปลื้ม! ไตรมาส 1/67 กำไรพุ่ง 71.6 ลบ. เติบโต 22.5% ส่งซิกไตรมาส 2 โตต่อ หลังเปิด KCG Logistics Park ตามแผน
KCG โชว์ผลงานไตรมาส 1/2567 กวาดกำไรสุทธิ 71.6 ล้านบาท เติบโต 22.5% รายได้รวมเกือบ 1,800 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ชี้โค้งแรกปีนี้เติบโตจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งซิกไตรมาส 2 โตไม่หยุดจากการเปิดใช้งานศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าตามแผน เพิ่มศักยภาพการบริหารสินค้าคงคลังและลดค่าใช้จ่าย หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,785.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% และมีกำไรสุทธิ 71.6 ล้านบาท เติบโต 22.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,085.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.8% ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ (FBI) มียอดขาย 515.7 ล้านบาท สัดส่วน 28.9% และผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มียอดขาย 184.0 ล้านบาท สัดส่วน 10.3% สำหรับช่องทางการขายให้ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 729.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 40.8% ช่องทางการขายให้ผู้บริโภค (B2C) มียอดขาย 991.8 ล้านบาท สัดส่วน 55.5% และช่องทางการส่งออกยอดขาย 64.5 ล้านบาท สัดส่วน 3.6%
“ไตรมาสแรกของปีนี้ เรายังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง จากเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ส่งต่อจากท้ายปี เข้าสู่ช่วงต้นปี สินค้าของเราอยู่ในกระแสและเป็นที่ต้องการ อีกทั้งเทศกาลวาเลนไทน์ที่สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนย ชีส และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากนม กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารและเบเกอรี่ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิตได้รับความนิยมจากการนำไปใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการการปรับปรุงหน่วยสินค้า (SKU Rationalization) ซึ่งเมื่อสินค้าใหม่เริ่มกระจายสู่ตลาดมากขึ้น และยอดขายสินค้าที่มาทดแทนสินค้าที่ถูกตัดออกทยอยเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ ในช่วงเวลาที่เหลือของปีเติบโตในอัตราเร่งมากขึ้น” นายดำรงชัย กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park จำนวน 6 อาคาร ซึ่งสามารถจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าได้ครบทุกอุณหภูมิ ทั้งแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) แช่เย็น (Air-Conditioned และ Chilled) และแช่แข็ง (Frozen) ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park จำนวน 2 อาคาร เป็นที่เรียบร้อยในช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ส่วนอีก 4 อาคารที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างซึ่งคืบหน้าตามแผน โดยจะพร้อมเปิดใช้งานได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 และจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้ง 6 อาคารในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการคลังสินค้า รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังสินค้าภายนอก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในสร้างการเติบโตในอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ ต่อไป
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,785.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% และมีกำไรสุทธิ 71.6 ล้านบาท เติบโต 22.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,085.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.8% ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ (FBI) มียอดขาย 515.7 ล้านบาท สัดส่วน 28.9% และผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มียอดขาย 184.0 ล้านบาท สัดส่วน 10.3% สำหรับช่องทางการขายให้ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 729.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 40.8% ช่องทางการขายให้ผู้บริโภค (B2C) มียอดขาย 991.8 ล้านบาท สัดส่วน 55.5% และช่องทางการส่งออกยอดขาย 64.5 ล้านบาท สัดส่วน 3.6%
“ไตรมาสแรกของปีนี้ เรายังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง จากเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ส่งต่อจากท้ายปี เข้าสู่ช่วงต้นปี สินค้าของเราอยู่ในกระแสและเป็นที่ต้องการ อีกทั้งเทศกาลวาเลนไทน์ที่สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนย ชีส และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากนม กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารและเบเกอรี่ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิตได้รับความนิยมจากการนำไปใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการการปรับปรุงหน่วยสินค้า (SKU Rationalization) ซึ่งเมื่อสินค้าใหม่เริ่มกระจายสู่ตลาดมากขึ้น และยอดขายสินค้าที่มาทดแทนสินค้าที่ถูกตัดออกทยอยเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ ในช่วงเวลาที่เหลือของปีเติบโตในอัตราเร่งมากขึ้น” นายดำรงชัย กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park จำนวน 6 อาคาร ซึ่งสามารถจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าได้ครบทุกอุณหภูมิ ทั้งแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) แช่เย็น (Air-Conditioned และ Chilled) และแช่แข็ง (Frozen) ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park จำนวน 2 อาคาร เป็นที่เรียบร้อยในช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ส่วนอีก 4 อาคารที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างซึ่งคืบหน้าตามแผน โดยจะพร้อมเปิดใช้งานได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 และจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้ง 6 อาคารในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการคลังสินค้า รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังสินค้าภายนอก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในสร้างการเติบโตในอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ ต่อไป
No comments